หมวย พิลาวรรณ อดีตสาวแม็กซิมปี 2010 แจ้งความจับหนุ่มนักธุรกิจ มอมยาพาเข้าโรงแรมเปลื้องผ้า หวั่นโดนถ่ายคลิปโป๊นำไปเผยแพร่จนเกิดความเสียหาย โร่แจ้งความกองปราบปราม
เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ที่ผ่านมา เวลา 14.00 น. ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) มีการเปิดเผยว่า อดีตสาวแม็กซิม 2010 ได้เข้าแจ้งความจับหนุ่มนักธุรกิจทำอนาจารกักขังหน่วงเหนี่ยว โดย น.ส.พิลาวรรณ อารีรอบ หรือ ''หมวย พิลาวรรณ'' อายุ 30 ปี พร้อมกับนายอมร สังข์มาลา ทนายความ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ นายก็อต ไม่ทราบชื่อจริงและนามสกุล กับพวกในความผิดฐานกระทำอนาจาร และกักขังหน่วงเหนี่ยว เหตุเกิดที่ห้องพัก ที่ 539 โรงแรมลักซ์ ซอยหลังสวน แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม. เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน ต่อเนื่อง 8 มิถุนายน ที่ผ่านมา
น.ส.พิลาวรรณ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุเพื่อนนางแบบที่ชื่อ ''จอย'' ซึ่งรู้จักกัน ได้โทรศัพท์มาหาตน โดยบอกว่ามีงานให้ทำ ได้รับเงินค่าจ้าง 5,000 บาท โดยขอให้ไปร่วมงานเลี้ยงวันเกิดนักธุรกิจหนุ่มรายหนึ่ง ที่ร้านไวน์บริดจ์เรสเทอรองต์ซึ่งเป็นร้านอาหารกึ่งผับ ตั้งอยู่ที่ซอยหลังสวน ตรงข้ามกับโรงแรมดังกล่าว ตนเพียงแค่ทำหน้าที่คอยถือเค้กวันเกิด และนั่งร่วมงานกับเจ้าของงานเท่านั้น เมื่อตกลงรับงาน และไปร่วมงานเลี้ยงดังกล่าวเมื่อช่วงค่ำวันที่ 7 มิถุนายน ที่ผ่านมาระหว่างที่ตนไปถึงก็ได้พบกับเจ้าของงานและคนที่นั่งอยู่ในโต๊ะประมาณ 5-6 คน แต่ไม่เห็นว่ามีเค้กวันเกิด จากนั้นก็นั่งคุยกันตามมารยาท โดยที่ตนดื่มสุราไปเพียงแก้วเดียว จนเริ่มไม่ค่อยสนุก เพราะไม่มีเพื่อนมาด้วย จึงขอตัวไปสูบบุหรี่
หลังจากกลับเข้ามาในร้านอีกครั้ง ก็เริ่มหมดสติ จำอะไรไม่ได้ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะถูกวางยาในเครื่องดื่ม โดยมารู้สึกตัวอีกทีก็พบว่า ตนถูกพาเข้าโรงแรมกับผู้ชายที่เป็นเจ้าของงานคนดังกล่าว โดยทราบเพียงว่าชื่อก็อต ส่วนสภาพตนก็ถูกถอดเสื้อผ้าออก โดยเสื้อกั๊กสีเขียวที่สวมอยู่ก็ไม่ใช่เสื้อของตน และสวมกางเกงชั้นใน เมื่อตั้งสติได้ก็รีบโทรศัพท์ติดต่อหาเพื่อนชื่อแนน เป็นจังหวะที่ชายคนดังกล่าว ก็พยายามจะกลับออกไป โดยมีกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ข้างใน พอเพื่อนตนมาถึงก็รีบเข้าไปสอบถามว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น และมีปากมีเสียงกันค่อนข้างรุนแรง
ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะอ้างว่า ตนยินยอมพร้อมใจที่จะเข้าโรงแรมด้วย ไม่ได้บังคับ ทั้งที่เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะตนหมดสติไป เมื่อชายคนดังกล่าวกลับออกไป เพื่อนตนจึงช่วยพากันไปสอบถามจากพนักงานต้อนรับของโรงแรมเพื่อสอบถามรายละเอียดต่างๆ รวมทั้งขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดก็พบว่าสภาพของตนช่วงที่ถูกพาเข้าโรงแรมนั้นต้องมีคนคอยพยุงตัว
นางแบบสาวกล่าวอีกว่า ตอนแรกตนไม่คิดจะแจ้งความ เพราะเกรงว่าเสื่อมเสียชื่อเสียงและมีผลกระทบกับการทำงาน และไม่มั่นใจว่าถูกกระทำล่วงเกินอะไรเนื่องจากไม่ได้สติ แต่หลังจากปรึกษากับทนายความแล้ว จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความเพราะอาจจะมีกล้องที่แอบถ่ายวิดีโอหรือภาพในขณะที่กำลังเปลือยกายอยู่ ซึ่งอาจถูกนำไปเผยแพร่ทำให้เกิดความเสียหายภายหลัง
ด้าน พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าวว่า ได้รับเรื่องและมอบหมายให้ พ.ต.ท.พงษ์ไสว แช่มลำเจียก พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ กก.1 บก.ป.สอบปากคำผู้ร้องไว้ในเบื้องต้น ก่อนรายงานผู้บังคับบัญชา เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป
ล่าสุด วานนี้ (13 มิถุนายน 2556) พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. เปิดเผยว่า ขณะนี้มอบหมายให้ชุดสืบสวน กก.1 บก.ป. เร่งรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด โดยให้ประสานไปยังเจ้าของร้านอาหารจุดเกิดเหตุ รวมถึงโรงแรมที่เกิดเหตุ เพื่อขอตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีข้อเท็จจริงเป็นเช่นไร ส่วนผู้เสียหายส่งไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อหาร่องรอยการข่มขืนนำมาใช้เป็นหลักฐาน นอกจากนี้จะต้องเรียกสอบปากคำพยานแวดล้อมทั้งหมด รวมทั้งพยานในเหตุการณ์ด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเร่งดำเนินการโดยเร็วที่สุด และพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย
ส่วนกรณีนายก็อตนั้นพนักงานสอบสวนตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นพบว่ามีตัวตนจริงและทราบว่าเป็นนักธุรกิจ แต่ทั้งนี้ข้อมูลในรายละเอียดต่าง ๆ ยังเปิดเผยไม่ได้เพราะเกรงจะเสียรูปคดี หากพยานหลักฐานต่าง ๆ ชัดเจนเพียงพอแล้วจะให้พนักงานสอบสวนพิจารณาออกหมายเรียกนายก็อตรับทราบข้อหาต่อไป
ทางด้าน หมวย พิลาวรรณ เปิดเผยถึงผลการตรวจร่างกายว่า ตนได้ไปตรวจที่โรงพยาบาลลาดพร้าว แต่ทิ้งห่างไป 3 วันทำให้หาร่องรอยการข่มขืนไม่เจอ อีกทั้งแพทย์บอกว่าหากดื่มแอลกอฮอลล์หรือโดนวางยามาก่อน จะเป็นการกระตุ้นฮอร์โมนทำให้ไม่มีบาดแผล ยิ่งไม่ใช่ผู้หญิงบริสุทธิ์ก็จะยิ่งหาร่องรอยยาก รวมถึงยานอนหลับที่ตรวจไม่พบ ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจเป็นยาชนิดออกฤทธิ์เร็วก็ยิ่งเจือจางเร็วไปด้วย อย่างไรก็ตาม ตนได้ไปตรวจร่างกายเพิ่มเติมที่โรงพยาบาลตำรวจแล้ว ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณหนึ่งอาทิตย์จึงจะทราบผล
นอกจากนี้ หมวย พิลาวรรณ กล่าวด้วยว่า สภาพจิตใจเริ่มดีขึ้น วันเจอเหตุการณ์ตอนแรกไม่ได้แจ้งความเพราะตั้งสติอยู่ 1-2 วันว่าจะต้องโดนกระแสวิพากษ์วิจารณ์แน่นอน แม้เรื่องที่เกิดขึ้นจะเป็นผู้ถูกกระทำก็ตาม แต่พอมาไตร่ตรองแล้วไม่อยากให้คนอื่นต้องมาเจอเหตุการณ์เช่นนี้ และทางคู่กรณีไม่ได้แสดงความสำนึกผิดแต่อย่างใด รู้สึกขยะแขยงมาก เอะอะจะเอาเงินฟาดหัวตลอด จึงตัดสินใจแจ้งความฐานกักขังหน่วงเหนี่ยวและกระทำอนาจารเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม แม้ว่าก่อนหน้านี้คู่กรณีติดต่อมาตลอด แต่เป็นการแก้ตัวมากกว่า ทั้งที่ภาพจากวงจรปิดของโรงแรมเห็นชัดว่าหิ้วปีกตนเข้ามา แต่กลับบอกว่าตนเมาจนเดินไม่ไหว พอตนถามว่าแล้วแก้ผ้าทำไม เขาบอกว่าตนบ่นร้อนให้เขาช่วยถอดให้ ตนเลยตอกกลับไปว่าช่วยดูหน้าตาตัวเองหน่อย อีกอย่างหลักฐานชัดเจนอยู่แล้วเพราะตอนที่เพื่อนมาหาตนที่โรงแรมเล่าให้ฟังว่า เห็นสภาพตนนอนบนเตียง ใส่แค่เสื้อกั๊กบาง ๆ ซึ่งไม่ใช่เสื้อของตัวเอง สิ่งที่เกิดขึ้นในห้องไม่รู้ว่ามีอะไรบ้าง ไม่รู้ว่าโดนละเมิดทางเพศหรือเปล่า หรือจะถ่ายคลิปไว้ด้วยไหม
และสิ่งที่ตนเสียใจมากที่สุดคือมีคนเข้ามาด่าเยอะมาก เนื่องจากสื่อบางสื่อลงจำนวนเงินค่าจ้างผิด จาก 5,000 บาท เป็น 50,000 บาท ทำให้ถูกมองว่าถูกจ้างไปนอนด้วยหรือเปล่า ทั้งที่ความจริงไม่ใช่ ตนได้รับเงิน 5,000 บาทเท่านั้น ที่ผ่านมามีข่าวในทางที่ไม่ค่อยดีนัก ทำให้คนเชื่อได้ง่าย อีกทั้งตอนนี้มีข่าวเกี่ยวกับสาวแม็กซิมออกมาเยอะ ไหนจะเรื่องที่ ฮาร์เวิร์ด หวัง เพิ่งบวชอีก จึงถูกโยงไปว่าสร้างกระแสอยากดัง ไม่มีใครอยากดังด้วยเรื่องอาชญากรรมแบบนี้ ตนออกมาเพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้คนอื่น และอยากขอร้องว่าอย่าเอาคำว่าแม็กซิมมาเอี่ยวกับชื่อตน ไม่อยากให้กระทบกับทางหนังสือ เวลามีข่าวอะไรก็ตามให้ใช้ชื่อ หมวย พิลาวรรณ จะดีกว่า
ที่มา: สยามดารา, ข่าวสด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น