เสก โลโซ ชวนน้องเลิกยา พร้อมขอระบายผ่านเพลง เส้นทางลูกผู้ชาย

หลังจากหยุดใช้ยาเสพติดมาได้ประมาณปีครึ่ง ศิลปินร็อกเกอร์แถวหน้าของเมืองไทย ''เสก โลโซ'' หรือ เสกสรร ศุขพิมาย ก็เดินหน้าร่วมเข้าโครงการเพื่อช่วยเหลือสังคมอย่างต่อเนื่อง เผยควักกระเป๋าทุ่มไม่อั้นทำโครงการ ''ชวนน้องเลิกยา... Come With Me'' เพื่อเชิญชวนเยาวชนของชาติเลิกยาตาม พร้อมเปิดใจเกี่ยวกับเพลง ''เส้นทางลูกผู้ชาย'' เพราะสุดทนหลังถูกขุดเรื่องเก่าด่าไม่เลิก เมินถูกติคำหยาบเยอะแจงแค่พูดตรงตามวิถีชาวร็อกเท่านั้น 

ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 56 นักร้องดังได้จัดงานแถลงข่าวเปิดโครงการ ''ชวนน้องเลิกยา... Come With Me'' ครั้งที่ 1 ณ โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง สาขาเลียบทางด่วนรามอินทรา โดยมีภรรยา กานต์ วิภากร ศุขพิมาย และลูกสาว ''น้องลอนดอน'' มาให้กำลังใจ นอกจากนี้ยังมีหลายภาคส่วน อาทิ มูลนิธิมิราเคิล ออฟ ไลฟ์, เครือข่ายวิทยุชุมชน เพื่อความเข้มแข็งและสถาบันธัญญารักษ์ ปลุกปั้นโครงการ ''ชวนน้องเลิกยา... Come With Me'' ขึ้นมาเป็นผลสำเสร็จ โดยโครงการนี้จะจัดให้น้องๆ ได้เข้าพบแพทย์และเข้ารับการรักษาโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ อีกทั้งจะไม่มีการดำเนินคดีและไม่เอาความผิดใดๆ กับผู้ที่มาร่วมในโครงการนี้อีกครั้งในวันที่ 23 มิ.ย. 56 ณ โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง สาขาเลียบทางด่วนรามอินทรา โดยผู้สนใจสามารถสมัคได้ที่ https://www.facebook.com/sekloso

โดยเกี่ยวกับเรื่องนี้ศิลปินร็อกเกอร์ขวัญใจชาวไทยได้เผยเกี่ยวกับแรงบันดาลใจและที่มาของโครงการ ''ชวนน้องเลิกยา... Come With Me'' โดยกล่าวว่าตนคิดว่าการเลิกยาเสพติดเพียงคนเดียวไม่เท่ากับการที่ได้ชวนคนอื่นมาเลิกใช้ยาเสพติดด้วย เพื่อในหลวงของเราและประเทศชาติของเราด้วย

''สำหรับวันนี้เราทั้ง 4 ภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นผม, ดร.มนัส นงนุช ตัวแทนจากมูลนิธิมิราเคิล ออฟ ไลฟ์, พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รองผู้บังคับการกองปราบปราม ตัวแทนจากเครือข่ายวิทยุชุมชน เพื่อความเข้มแข็ง และ นพ.อังกูร ภัทรากร ตัวแทนจากสถาบันธัญญารักษ์ ได้มาร่วมกันทำโครงการ ''ชวนน้องเลิกยา... Come With Me'' เป็นโครงการที่จะเชิญชวนน้องๆ ที่ติดยาเสพติดมาเลิกยากัน ซึ่งวันนี้เป็นวันเปิดโครงการเป็นครั้งแรกเลยทีเดียว โดยในวันนี้มีน้องๆ ที่เข้าร่วมโครงการอยู่จำนวนนึง จริงก่อนหน้านี้มีติดต่อเข้ามาเยอะ แต่อาจจะเป็นเพราะกลัวกันก็ไม่เป็นไรเพราะในสัปดาห์หน้า  23 มิ.ย. 56 เราจะจัดโครงการอีกเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งก็อยากให้น้องๆ ที่หลงผิดติดยาเสพติดได้มาที่นี่กันครับ''

''ที่ริเริ่มโครงการนี้เพราะเนื่องจากมีเหตุการณ์ที่น่าสงสัยและคลางแคลงใจเพราะผมไปทุบกีตาร์บนเวที ทำให้หลายคนอาจสงสัยว่าผมจะกลับไปใช้ยาอีก ก็เลยอยากจะพิสูจน์ให้ทุกคนได้รู้ว่าผมเลิกใช้ยาเสพติดแล้วจริงๆ ซึ่งหลังจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ก็ทำให้ผมได้ผุดไอเดียขึ้นว่า ถ้าเราเลิกแค่คนเดียวก็คงจะไม่เท่เท่าไหร่ก็เลยทำโครงการนี้ขึ้นมาเพื่อเชิญชวนน้องๆ เลิกยากันให้หมด เพื่อพ่อหลวงและเพื่อประเทศไทยของเรา ซึ่งกับโครงการนี้ที่เกิดขึ้นได้ต้องขอบคุณพี่ๆ ทุกๆ คน ณ ที่นี้ที่ให้ความร่วมมือครับ''

ด้าน พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รองผู้บังคับการกองปราบปราม ตัวแทนจากเครือข่ายวิทยุชุมชนเพื่อความเข้มแข็ง ได้ยืนยันหนักแน่นว่าผู้ที่มาร่วมในโครงการนี้จะมีไม่การดำเนินคดีอย่างแน่นอน

''โครงนี้เป็นโครงการที่ดีมาก โครงการ ''ชวนน้องเลิกยา... Come With Me'' อยู่ภายใต้การดูแลของ เสก โลโซ, มูลนิธิมิราเคิล ออฟ ไลฟ์, เครือข่ายวิทยุชุมชนเพื่อความเข้มแข็ง และสถาบันธัญญารักษ์ โครงการนี้ถือว่าเป็นโครงการที่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมสมัครใจบำบัดสำหรับผู้ติดยาเสพติด ไม่ถือว่าเป็นผู้ต้องหาและไม่มีความผิดใดๆ ทั้งสิ้น เราจะถือว่าเป็นผู้ป่วยและเมื่อบำบัดเสร็จแล้วจะไม่มีประวัติในเรื่องความเสียหายที่จะไปสมัครงานอะไรต่างๆ แต่ในทางกลับกันก็จะเป็นผลดีกับผู้ที่เข้ามาร่วมโครงการ เพื่อในอนาคตอยากจะสมัครหรือทำงานต่อไปด้วย เพราะสุดท้ายแล้วเราก็อยากจะเห็นลูกหลานของเราปลอดจากยาเสพติด โดยหลังจากที่แถลงข่าวออกไปตอนนี้มีทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่ยินดีที่จะมาเข้าร่วมโครงการ''

นอกจากนี้ เสก โลโซ ได้ทิ้งท้ายเกี่ยวกับโครงการ ''ชวนน้องเลิกยา... Come With Me'' ที่ได้จัดตั้งขึ้นมาด้วยว่า
''ผมรู้สึกยินดีมากกับตัวเองที่ได้ทำโครงการนี้ขึ้นมา และผมขอสละชีวิตนี้ต่อต้านยาเสพติดและขอให้ความสามารถที่มีอยู่ทำงานตรงนี้ ผมคิดว่าผู้ที่ชื่นชอบเพลงของผมมีเยอะนะครับ ดังนั้นผมจะใช้เสียงเพลงของผมเชิญชวนน้องๆ มาเลิกยาได้ อยากบอกว่าผมเองเป็นคนโชคดีมากที่ยังมีจิตใจที่เข้มแข็งอยู่ ถ้าผมอ่อนแอ ผมก็อาจจะสูญเสียครอบครัวที่ผมรัก เสียแฟนเพลงที่รักของผม ทรัพย์สิน เงินทอง ฯลฯ รวมถึงความทรงจำของสมอง ยาเสพติดมันก็ทำลายหมด ดังนั้นการที่เลิกมาได้และกลับมาได้นั้นถือเป็นเรื่องที่ดีมากๆ ครับ ก็ไม่อยากให้ทุกคนไปข้องแวะกับมัน และถ้าหากเราไม่มีผู้เสพก็คงไม่มีผู้ค้าแน่นอน และสุดท้ายอยากบอกน้องๆ ทุกคน ยาเสพติดมันเลิกได้แน่นอน ที่แล้วมาทุกคนเดินหลงทางผิดได้หมด แต่เราต้องเริ่มต้นชีวิตให้ได้''

ในการแถลงข่าวโครงการ ''ชวนน้องเลิกยา... Come With Me'' เสก โลโซ ยังได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับเพลงใหม่ที่มีชื่อว่า ''เส้นทางลูกผู้ชาย'' ซึ่งมีเนื้อหาที่รุนแรงเสียดสีสังคม ซึ่งเจ้าตัวได้กล่าวว่า
''เอาเป็นเรื่องบันเทิงแล้วกันครับ ด้วยความที่ผมเป็นร็อกแอนด์โรล ตรงไปตรงมา ผมเองก็โดนด่าเยอะ มันก็รู้สึกว่ามันไม่ไหวแล้วต้องซัดกลับไปบ้าง เพื่อจะได้หยุดๆ กันบ้าง ผมจะบอกให้นะว่าผมตั้งใจดีต่อทุกคนและรักทุกคน และตั้งใจดีต่อประเทศนี้ คุณต้องดูในสิ่งที่ผมทำดีบ้าง เพราะฉะนั้นโดนด่าเยอะขนาดนี้ถ้าไม่ตอบโต้บ้างก็จะหาว่าผมเป็นตุ๊ด อีกทั้งผมเป็นคนไม่ยอมคน ผมก็ต้องซดกลับบ้าง แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นผมก็ไม่ได้ไปรังแกใครก่อน บอกเลยว่าในชีวิตของผม ผมไม่เคยรังแกใครก่อน และผมก็ไม่ยอมที่จะมีใครมารังแกผมเหมือนกัน''

''แรงบันดาลใจในการแต่งเพลงนี้เพราะผมรู้ว่าว่าอัดอั้นตันใจที่ถูกต่อว่าอยู่นั่น ทั้งๆ ที่หลายครั้งเราก็ทำความดีมาเยอะไม่ว่าเป็นช่วงน้ำท่วม ผมนำของไปแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยต่างๆ นานา ก็ไม่เห็นมาชมเชยอะไรเท่าไหร่ ผมจะบอกให้นะว่าคนไทยเวลาเราทำดีก็ไม่มีใครชอบชมเชย แต่พอเราพลาดก็มาซ้ำเติมกัน นี่แหละคือสิ่งที่เกิดขึ้นและทำให้มีเพลงนี้ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลผมเลยรู้สึกว่าบางครั้งหลายคนก็ควรจะให้อภัยคนอื่นเป็น

1.คนพลาดเราต้องให้อภัยอย่ามาซ้ำเติมกัน
2.ต้องให้โอกาส และ
3.เราต้องให้กำลังใจให้เขากลับมาเป็นคนที่ดีขึ้น

สำหรับเนื้อหาของเพลงนี้ที่มีการใช้คำหยาบคายส่วนตัวผมคิดว่าเพลงใต้ดินอื่นๆ ก็มีเยอะแยะที่เป็นแบบนี้แหละ แต่มันไม่เป็นประเด็นเท่านั้น ไทเทเนี่ยมก็มี ไม่เชื่อก็ลองไปฟังดูสิ และก็มีพวกที่จ้องทำลายผมอยู่ก็มีเหมือนกัน ซึ่งอย่าบอกว่าผมไม่ได้กลัวเกรงอะไรหรอก เพราะฉะนั้นอย่ามาหาเรื่องผมเลย อยู่เฉยๆ เถอะ ไปช่วยให้ประเทศชาติเจริญรุ่งเรื่องดีกว่า''

''และตอนนี้พี่กำลังเข้าห้องอัดอยู่ ก็เลยเบรกๆ เรื่องคอนเสิร์ต และหลายคนก็ถามเหมือนกันว่าเพลง ''เส้นทางลูกผู้ชาย'' ที่ออกมาจะได้เข้าไปอยู่ในอัลบั้มใหม่คิดว่าไม่มีแต่จะทำเป็นซิงเกิลใต้ดินออกมาขายนะครับ และนำเงินเข้าโครงการเพื่อเอาไปดูแลรักษาสุนัขจรจัด พวกปากหมามันจะได้หยุดมากกว่า''

เมื่อนักข่าวถามว่าหลังจากที่แต่งเพลงนี้ออกมาทำให้หายเครียดลงได้หรือเปล่า?
''ก็ดี ผมก็สบายเลย จริงๆ ผมก็ไม่ได้เครียดหรอกนะ ผมแค่อยากให้ทุกคนรู้ว่าผมเป็นอย่างนี้ ผมใช้วิถีของเพลงของผมด่าคืนบ้าง ถ้าผู้ใหญ่คนไหนที่ฟังแล้วไม่สบายใจผมก็ต้องขอโทษด้วย''